ผู้สูงอายุว่า หมายถึงผู้ที่มีอายุเกิน 60 ปีขึ้น ผู้สูงอายุมีความต้องการพลังงานลดลงจากวัยผู้ใหญ่ เนื่องจากปริมาณกล้ามเนื้อและมวลกล้ามเนื้อที่ลดลง การลดลงของมวลกล้ามเนื้ออาจเนื่องมาจากการใช้พลังงานสำหรับการประกอบกิจกรรมในชีวิตประจำวันและอัตราการสร้างเนื้อเยื่อใหม่ ๆ ลดลง อัตราการเผาผลาญอาหารลดลงตามอายุที่เพิ่มขึ้น แต่ความต้องการสารอาหารอื่น ๆ รวมทั้งวิตามินและเกลือแร่ไม่ลดลง ยกเว้นความต้องการธาตุเหล็ก ในการบริโภคอาหารของผู้สูงอายุต้องคำนึงถึงคุณภาพของอาหาร โดยให้พลังงานลดลง แต่ได้สารอาหารครบถ้วน
1. แร่ธาตุที่ผู้สูงอายุต้องการและมักจะขาดคือ ธาตุแคลเซียมฟอฟอรัสและธาตุสังกะสี ธาตุแคลเซียมและฟอฟอรัสเป็นส่วนประกอบสำคัญของกระดูก พบมากในนม ก้อนเต้าหู้ ผักผลไม้ เมล็ดงา กระดูกสัตว์ เช่น ปลาป่นหรือปลากระป๋อง ผู้สูงอายุจึงควรรับประทานนมบ้าง แต่ควรเป็นนมพร่องไขมันเนย หรือนมถั่วเหลืองเพื่อลดปริมาณไขมันที่ไม่จำเป็นออกไป ส่วนธาตุสังกะสีมีความจำเป็นต่อร่างกายหลายระบบโดยเฉพาะผิวหนัง ซึ่งมีมากในอาหารทะเล ปลา เป็นต้น
2. เหล็กเป็นเกลือแร่อีกชนิดหนึ่งที่พบว่ามีการขาดในผู้สูงอายุ และทำให้เกิดโรคโลหิตจาง ซึ่งทำให้ผู้สูงอายุเหนื่อยง่าย ความต้านทานโรคน้อยลง เจ็บป่วยได้ง่าย ทำให้ร่างกายอ่อนแอลงมีในอาหารทุกชนิด ทั้งเนื้อสัตว์ นม ไข่ ผัก ผลไม้ และธัญพืช แต่ในปริมาณมากน้อยแตกต่างกัน
3. วิตามินที่ผู้สูงอายุส่วนใหญ่อาจจะขาดได้บ่อยเช่น วิตามินบีหนึ่ง วิตามินอี วิตามินดี และกรดโฟลิค ถ้าผู้สูงอายุท่านนั้นอยู่แต่ในบ้าน หรือรับประทานอาหารไม่เพียงพอ การรับประทานอาหารซ้ำๆ เป็นเวลานาน ทำให้ได้รับวิตามินบางชนิดมากเกินไป ก็ไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพ
2. เหล็กเป็นเกลือแร่อีกชนิดหนึ่งที่พบว่ามีการขาดในผู้สูงอายุ และทำให้เกิดโรคโลหิตจาง ซึ่งทำให้ผู้สูงอายุเหนื่อยง่าย ความต้านทานโรคน้อยลง เจ็บป่วยได้ง่าย ทำให้ร่างกายอ่อนแอลงมีในอาหารทุกชนิด ทั้งเนื้อสัตว์ นม ไข่ ผัก ผลไม้ และธัญพืช แต่ในปริมาณมากน้อยแตกต่างกัน
3. วิตามินที่ผู้สูงอายุส่วนใหญ่อาจจะขาดได้บ่อยเช่น วิตามินบีหนึ่ง วิตามินอี วิตามินดี และกรดโฟลิค ถ้าผู้สูงอายุท่านนั้นอยู่แต่ในบ้าน หรือรับประทานอาหารไม่เพียงพอ การรับประทานอาหารซ้ำๆ เป็นเวลานาน ทำให้ได้รับวิตามินบางชนิดมากเกินไป ก็ไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพ
แคลเซี่ยม
เมื่ออายุล่วงเลยมาทำให้ร่างกายเริ่มโรยรายการดูดซึมแคลเซียมของร่างกายก็ย่อมลดน้อยลงทำให้ปัจจุบันผู้สูงอายุประสบปัญหาเกี่ยวกับโรคกระดูกมากขึ้นโดยเฉพาะในเพศหญิงจึงทำให้หลายๆคนหันมากินแคลเซียมเม็ดกันมากขึ้นเพื่อหวังเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรงหรือแม้กระทั่งผู้ที่ไม่ได้อยู่ในวัยชราหรืออายุยังไม่มากก็ตามแต่ด้วยความคิดที่ว่าหากได้รับแคลเซียมในปริมาณที่มากๆ ก็จะทำให้สูงขึ้นจึงทำให้อาหารเสริมแคลเซียมเม็ดนั้นได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย แต่อะไรที่มากเกินไปก็ย่อมไม่เป็นผลดีแน่นอน เราจึงขอนำเสนอเรื่องราวของการกินแคลเซียมมากเกินไปมีผลกระทบอย่างไรและอันตรายมากน้อยแค่ไหนกัน
ถั่งเช่า
ผู้สูงอายุมักจะมีอาการอ่อนแรงด้วยโรคประจำตัวหลายอย่าง การทานถั่งเช่าสามารถช่วยเสริมสมรรถภาพร่างกายของผู้สูงอายุได้ดี
ผู้สูงอายุมักจะมีอาการอ่อนแรงด้วยโรคประจำตัวหลายอย่าง การทานถั่งเช่าสามารถช่วยเสริมสมรรถภาพร่างกายของผู้สูงอายุได้ดี
ทำให้มีแรงมีกำลังใจสู้กับโรคภัยไข้เจ็บ ถั่งเช่าเป็นยาบำรุงกำลังที่รู้จักกันดี เป็นโอสถทิพย์สำหรับฮ่องเต้สมัยโบราณ
ในการวิจัย ผู้สูงอายุที่ใช้ถั่งเช่าเป็นเวลา 6 สัปดาห์ สามารถเพิ่มสมรรถภาพร่างกายได้ โดยสามารถเพิ่ม Anaerobic threshold (จุดที่ร่างกายผลิตกรดแลคติคที่ทำให้อ่อนล้าออกมามาก ๆ)ได้ถึง 12.6% (แสดงว่าเหนื่อยยากขึ้น)
ในขณะที่ยาหลอกไม่ทำให้มีแรงกำลังมากขึ้นเลย แสดงถึงสรรพคุณในการบำรุงกำลังของถั่งเช่าตามตำราโบราณได้เป็นอย่างดี
ขมิ้นชัน
ขมิ้นชันอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีคุณค่าต่อสุขภาพมากมาย เช่น วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 3วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินอี วิตามินเค โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส แคลเซียม ทองแดง เหล็ก แมกนีเซียม สังกะสี ไนอาซิน โปรตีน ใยอาหาร ฯลฯ ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างให้ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง หากกินขมิ้นชันได้บ่อยๆ จะช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันให้ทำงานเป็นปกติ และช่วยลดอาการของโรคภูมิแพ้หรือแก้หวัดได้ดีมาก รวมทั้งสามารถนำมาใช้เพื่อรักษาอาการเจ็บป่วยภายนอกร่างกาย อย่างการรักษาอาการแพ้ ผื่นคัน แมลงสัตว์กัดต่อย
แอสตาแซนธิน
แอสตาแซนธิน เป็นสารสีแดงที่จัดอยู่ในกลุ่มแคโรทีนอยด์ (Carotenoids) ที่โด่งดังด้วยผลวิจัยทางการแพทย์มากมายเนื่องด้วยสูตรโครงสร้างเป็นเอกลักษณ์ของแอสตาแซนธิน ในการปกป้องเหยื่อหุ้มเซลล์ในอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย ซึ่งแตกต่างจากเบต้าแคโรทีน วิตามินซี และสารต้านอนุมูลอิสระตัวอื่น ที่ช่วยปกป้องเฉพาะภายในหรือภายนอกของเหยื่อหุ้มเซลล์
ถือเป็สารต้านอนุมูลอิสระของยุคนี้ที่มีประสิทธิภาพสูงและมีความปลอดภัยในการบริโภค และไม่มีผลข้างเคียงต่อสุขภาพ โดยจากผลการวิจัยพบว่า แอสตาแซนธินมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ
สูงกว่า โคเอนไซม์คิวเทน 800 เท่า
สูงกว่าคาทีซิน ซึ่งเป็นสารสกัดจากชาเขียว 560 เท่า
สูงกว่าวิตามินซี 6,000 เท่า สูงกว่า วิตามินอี 500 เท่า
ขิง
เป็นสุดยอดสมุนไพรที่ช่วยรักษาโรคต่าง ๆ ได้สาระพัด ประกอบไปด้วยแร่ธาตุต่างๆมากมาย เช่น แคลเซียม แม็คนีเซียม วิตามินบี1 บี2
และยังมีสรรพคุณที่สาว ๆ หนุ่ม ๆ หลายคนน่าจะสนใจกันเป็นอย่างมาก นั่นก็คือสรรพคุณทางด้านลดน้ำหนัก เพียงแค่ดื่มน้ำขิงเป็นประจำวันละ 1-3 แก้ว
ก็จะช่วยให้น้ำหนักเราลดได้อย่างไม่น่าเชื่อ มาดูกันดีกว่าว่าทำไมดื่มน้ำขิงแล้วถึงช่วยลดน้ำหนักได้
สูตรดังเดิม
สูตรควบคุมน้ำหนัก
สารสกัดจากเมล็ดองุ่น
สารสำคัญในเมล็ดองุ่นนอกจากจะช่วยรักษาสุขภาพจากภายใน ยังช่วย...
ช่วยฟื้นฟูและบำรุงผิงพรรณให้ดูอ่อนกว่าวัย
ช่วยชะลอความชรา
เป็นสารต้านมะเร็งที่มีประสิทธิภาพสูงแล้ว ยังดีต่อกล้ามเนื้อหัวใจ
ช่วยป้องกันโรคหัวใจ
ช่วยเพิ่มการไหลเวียนโลหิต
ชะลอการก่อตัวของลิ่มเลือด ไม่ทำให้ลิ่มเลือดตีบตัน
ลดอุบัติการณ์ของโรคหัวใจขาดเลือด
ช่วยป้องกันเกี่ยวกับโรคจอประสาทตาได้อีกด้วย
▃▃▃▃▃▃▃▃
- 1. สนใจ #สินค้ากิฟฟารีน ติดต่อ น้ำหนึ่งกิฟฟารีนสั่งสินค้าทาง Inbox ได้ที่ m.me/GiftBy1
2. สั่งสินค้าทางไลน์ น้ำหนึ่ง กิฟฟารีน https://line.me/R/ti/p/%40cce8445o
3. สั่งซื้อได้ที่ shopee แตะที่ภาพได้เลยค่ะ
4. สนใจสมัครสมาชิกรับส่วนลดทันที 25% http://neung.guide4lift.org/preregister.php
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น